ลาวกาว

  • หน้าแรก
  • สังคม
    สวย

    สวย

    06 มิ.ย. 2020
    เชิญบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศล 11 ธ.ค. นี้ที่ ทน.อุบลฯ

    เชิญบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศล 11 ธ.ค. นี้ที่ ทน.อุบลฯ

    27 พ.ย. 2019
    ทน.อุบลฯ มอบวุฒิบัตรให้ผู้ประกอบการจำหน่ายอาหาร

    ทน.อุบลฯ มอบวุฒิบัตรให้ผู้ประกอบการจำหน่ายอาหาร

    26 พ.ย. 2019
    ควันหลงวันลอยกระทง : ภารกิจ จิตอาสา กับ “วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” สมาชิกวุฒิสภา

    ควันหลงวันลอยกระทง : ภารกิจ จิตอาสา กับ “วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” สมาชิกวุฒิสภา

    15 พ.ย. 2019
  • การเมือง
    “วุฒิสภาพบสื่อมวลชน” เพื่อการสื่อสารทรงประสิทธิภาพสู่ประชาชน

    “วุฒิสภาพบสื่อมวลชน” เพื่อการสื่อสารทรงประสิทธิภาพสู่ประชาชน

    15 พ.ย. 2019
    11 องค์กร เรียกร้องไทยรับรองเนื้อหาของระเบียบผู้ลี้ภัย สอดคล้องมาตรฐานระหว่างประเทศ

    11 องค์กร เรียกร้องไทยรับรองเนื้อหาของระเบียบผู้ลี้ภัย สอดคล้องมาตรฐานระหว่างประเทศ

    12 พ.ย. 2019
    แอมเนสตี้ ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ ในวาระเยือนไทย

    แอมเนสตี้ ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ ในวาระเยือนไทย

    01 ส.ค. 2019
    5 พรรคการเมืองชูแก้กฎหมายละเมิดสิทธิ ร่วมหนุนปกป้องเสรีภาพการแสดงออก

    5 พรรคการเมืองชูแก้กฎหมายละเมิดสิทธิ ร่วมหนุนปกป้องเสรีภาพการแสดงออก

    08 มี.ค. 2019
  • เศรษฐกิจ
    เฮงลิสซิ่ง เปิดตัว Call Center 1361 ยกระดับการให้บริการ

    เฮงลิสซิ่ง เปิดตัว Call Center 1361 ยกระดับการให้บริการ

    30 ส.ค. 2019
    “แม็คโคร” บุกอีสานจัดงาน “ตลาดนัดโชห่วยภูมิภาค” เคียงข้างโชห่วยไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

    “แม็คโคร” บุกอีสานจัดงาน “ตลาดนัดโชห่วยภูมิภาค” เคียงข้างโชห่วยไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

    25 ก.ค. 2019
    “สัมมนารอบกรุง” เครื่องมือใหม่ “ทีเส็บ” ส่งเสริมการประชุมในประเทศ

    “สัมมนารอบกรุง” เครื่องมือใหม่ “ทีเส็บ” ส่งเสริมการประชุมในประเทศ

    21 ก.ค. 2019
    “ลาซาด้า” ชวนนักขายออนไลน์ร่วมงาน “ผ้านาข่าชุมชนอัจฉริยะออนไลน์”

    “ลาซาด้า” ชวนนักขายออนไลน์ร่วมงาน “ผ้านาข่าชุมชนอัจฉริยะออนไลน์”

    19 ก.ค. 2019
  • ท่องเที่ยว
    จ.อุบลฯ จัดงาน “ทอฝ้ายเป็นสายบุญจุลกฐินฯ” ประจำปี 2562

    จ.อุบลฯ จัดงาน “ทอฝ้ายเป็นสายบุญจุลกฐินฯ” ประจำปี 2562

    04 พ.ย. 2019
    เทศกาลวัน Halloween แค่เพียงสนุกๆ หรือเป็นกุศโลบาย

    เทศกาลวัน Halloween แค่เพียงสนุกๆ หรือเป็นกุศโลบาย

    30 ต.ค. 2019
    สัมผัสธรรมชาติ “สัมมนารอบกรุง” ดีต่อใจที่ “บางกะเจ้า”

    สัมผัสธรรมชาติ “สัมมนารอบกรุง” ดีต่อใจที่ “บางกะเจ้า”

    09 ก.ค. 2019
    เชิญเที่ยวงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี “118 ปี เทียนพรรษา เทิดราชาขวัญแผ่นดิน”

    เชิญเที่ยวงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี “118 ปี เทียนพรรษา เทิดราชาขวัญแผ่นดิน”

    18 มิ.ย. 2019
  • เทคโนโลยี
    เปิดรับสมัครแข่งขันเกม CS:GO ชิงเงินรางวัลกว่า 360,000 บาท

    เปิดรับสมัครแข่งขันเกม CS:GO ชิงเงินรางวัลกว่า 360,000 บาท

    31 ก.ค. 2019
    ม.อุบลฯ จับมือ ธ.ไทยพาณิชย์ สนองนโยบาย DIGITAL THAILAND พัฒนาระบบ Smart University

    ม.อุบลฯ จับมือ ธ.ไทยพาณิชย์ สนองนโยบาย DIGITAL THAILAND พัฒนาระบบ Smart University

    16 ม.ค. 2019
    ม.อุบลฯ กวาด 2 รางวัล GSB Startup University Model

    ม.อุบลฯ กวาด 2 รางวัล GSB Startup University Model

    18 พ.ย. 2018
  • เกษตรกรรม
    ม.อุบลฯ จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ ลงแขกเกี่ยวข้าว “มือเรียวรอเกี่ยวรวง” สืบทอดประเพณีจากรุ่นสู่รุ่น

    ม.อุบลฯ จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ ลงแขกเกี่ยวข้าว “มือเรียวรอเกี่ยวรวง” สืบทอดประเพณีจากรุ่นสู่รุ่น

    21 พ.ย. 2019
    ม.อุบลฯ เพาะเชื้อราไตรโคเดอร์มา แก้ปัญหาเชื้อราจากน้ำท่วมขังในพืชผัก ข้าว และมันสำปะหลัง

    ม.อุบลฯ เพาะเชื้อราไตรโคเดอร์มา แก้ปัญหาเชื้อราจากน้ำท่วมขังในพืชผัก ข้าว และมันสำปะหลัง

    01 พ.ย. 2019
    ม.อุบลฯ ทำโรงเพาะเห็ดมือถือ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม หลังน้ำลด

    ม.อุบลฯ ทำโรงเพาะเห็ดมือถือ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม หลังน้ำลด

    25 ก.ย. 2019
    ม.อุบลฯ ส่งมอบ “สระเก็บน้ำต้านภัยแล้งต้นแบบ” บ้านสำโรง อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลฯ

    ม.อุบลฯ ส่งมอบ “สระเก็บน้ำต้านภัยแล้งต้นแบบ” บ้านสำโรง อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลฯ

    26 ก.พ. 2019
  • การศึกษา
    ว.แพทยศาสตร์ฯ จัดคอนเสิร์ตการกุศลสมทบทุนพัฒนา โรงพยาบาล ม.อุบลฯ

    ว.แพทยศาสตร์ฯ จัดคอนเสิร์ตการกุศลสมทบทุนพัฒนา โรงพยาบาล ม.อุบลฯ

    26 พ.ย. 2019
    ม.อุบลฯ ต้อนรับตัวแทนสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

    ม.อุบลฯ ต้อนรับตัวแทนสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

    21 พ.ย. 2019
    ม.อุบลฯ จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ ลงแขกเกี่ยวข้าว “มือเรียวรอเกี่ยวรวง” สืบทอดประเพณีจากรุ่นสู่รุ่น

    ม.อุบลฯ จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ ลงแขกเกี่ยวข้าว “มือเรียวรอเกี่ยวรวง” สืบทอดประเพณีจากรุ่นสู่รุ่น

    21 พ.ย. 2019
    ม.อุบลฯ เพาะเชื้อราไตรโคเดอร์มา แก้ปัญหาเชื้อราจากน้ำท่วมขังในพืชผัก ข้าว และมันสำปะหลัง

    ม.อุบลฯ เพาะเชื้อราไตรโคเดอร์มา แก้ปัญหาเชื้อราจากน้ำท่วมขังในพืชผัก ข้าว และมันสำปะหลัง

    01 พ.ย. 2019
  • กีฬา
    UBU BBGUN CLUB กวาดแชมป์ ASTG Sisaket ASTG 2019

    UBU BBGUN CLUB กวาดแชมป์ ASTG Sisaket ASTG 2019

    13 พ.ย. 2019
    โชว์นวัตกรรมกีฬาอีสปอร์ต พร้อมจัดแข่งขัน Taiwan Excellence eSport Cup ครั้งแรกในไทย

    โชว์นวัตกรรมกีฬาอีสปอร์ต พร้อมจัดแข่งขัน Taiwan Excellence eSport Cup ครั้งแรกในไทย

    05 ก.ค. 2019
    นศ.ม.อุบลฯ คว้า 1 แสน แชมป์ประเทศไทย แข่งขัน eSport : SYNNEX GAMING & E-SPORT PUBG TOURNAMENT 2019

    นศ.ม.อุบลฯ คว้า 1 แสน แชมป์ประเทศไทย แข่งขัน eSport : SYNNEX GAMING & E-SPORT PUBG TOURNAMENT 2019

    03 เม.ย. 2019
  • สุขภาพ
    สคร.10 อุบลฯ เตือนระวัง โรคมือ เท้า ปาก ระบาดช่วงหน้าหนาว เน้นป้องกันดีกว่ารักษา

    สคร.10 อุบลฯ เตือนระวัง โรคมือ เท้า ปาก ระบาดช่วงหน้าหนาว เน้นป้องกันดีกว่ารักษา

    26 พ.ย. 2019
    อบรมพัฒนาศักยภาพ อสม.ประจำปีงบประมาณ 2563

    อบรมพัฒนาศักยภาพ อสม.ประจำปีงบประมาณ 2563

    19 พ.ย. 2019
    ผอ.สคร.10 อุบลฯ เตือนนักท่องเที่ยว-เดินป่า กางเต็นท์รับลมหนาว ระวังป่วย 2 โรคอันตราย

    ผอ.สคร.10 อุบลฯ เตือนนักท่องเที่ยว-เดินป่า กางเต็นท์รับลมหนาว ระวังป่วย 2 โรคอันตราย

    05 พ.ย. 2019
    สคร.10 อุบลฯ หนุนเลิกใช้ 3 สารเคมีอันตราย

    สคร.10 อุบลฯ หนุนเลิกใช้ 3 สารเคมีอันตราย

    10 ต.ค. 2019
  • ทั่วไป
    ร่วมเป็นสักขีพยาน MOU โครงการก่อสร้างเคเบิลใต้ดิน พื้นที่ ทน.อุบลราชธานี

    ร่วมเป็นสักขีพยาน MOU โครงการก่อสร้างเคเบิลใต้ดิน พื้นที่ ทน.อุบลราชธานี

    27 พ.ย. 2019
    ควันหลงวันลอยกระทง : ภารกิจ จิตอาสา กับ “วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” สมาชิกวุฒิสภา

    ควันหลงวันลอยกระทง : ภารกิจ จิตอาสา กับ “วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” สมาชิกวุฒิสภา

    15 พ.ย. 2019
    เทศกาลวัน Halloween แค่เพียงสนุกๆ หรือเป็นกุศโลบาย

    เทศกาลวัน Halloween แค่เพียงสนุกๆ หรือเป็นกุศโลบาย

    30 ต.ค. 2019
    ๒๓ ตุลาคม “วันปิยมหาราช” เทิดพระเกียรติ รัชกาลที่ ๕

    ๒๓ ตุลาคม “วันปิยมหาราช” เทิดพระเกียรติ รัชกาลที่ ๕

    22 ต.ค. 2019
ข่าวล่าสุด
  • สวย   |   06 มิ.ย. 2020

  • ร่วมเป็นสักขีพยาน MOU โครงการก่อสร้างเคเบิลใต้ดิน พื้นที่ ทน.อุบลราชธานี   |   27 พ.ย. 2019

  • เชิญบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศล 11 ธ.ค. นี้ที่ ทน.อุบลฯ   |   27 พ.ย. 2019

  • ว.แพทยศาสตร์ฯ จัดคอนเสิร์ตการกุศลสมทบทุนพัฒนา โรงพยาบาล ม.อุบลฯ   |   26 พ.ย. 2019

  • สคร.10 อุบลฯ เตือนระวัง โรคมือ เท้า ปาก ระบาดช่วงหน้าหนาว เน้นป้องกันดีกว่ารักษา   |   26 พ.ย. 2019

  • ทน.อุบลฯ มอบวุฒิบัตรให้ผู้ประกอบการจำหน่ายอาหาร   |   26 พ.ย. 2019

 

๒๓ ตุลาคม “วันปิยมหาราช” เทิดพระเกียรติ รัชกาลที่ ๕

22 ต.ค. 2019 ทั่วไป Leave a comment 2129 วิว

Twitter Facebook Google + Stumble linkedin Pinterest More

          ๒๓ ตุลาคม ของทุกปี ปวงประชาชนชาวไทยต่างเป็นที่ทราบกันดีว่า คือ “วันปิยมหาราช” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ซึ่งเหล่าชาวไทยได้พร้อมใจกันถวายพระนามแด่พระองค์ว่า สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง หรือ สมเด็จพระปิยมหาราช

          พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงเสด็จพระราชสมภพเมื่อ วันอังคาร เดือน ๑๐ แรม ๓ ค่ำ ปีฉลู หรือ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๓๙๖ เป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๙ ใน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นที่ ๑ ใน สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพมหากุฎ บุรุษยรัตนราชรวิวงศ์ วรุตมพงศ์บริพัตรสิริวัฒนราชกุมาร และทรงมีพระนามเต็มว่า ‘พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยมหามงกุฏ บุรุษรัตนราชรวิวงศ์ วรุฒมพงษ์บรพัตร วรขัติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ อุภโตสุชาตสังสุทธเคราะหณี จักรีบรมนาถ อดิศวรราชรามวรังกูร สุภาธิการรังสฤษดิ์ ธัญลักษณวิจิตโสภาคยสรรพางค์ มหาชโนตมางคประนตบาทบงกชยุคล ประสิทธิสรรพศุภ ผลอุดมบรมสุขุมมาลย์ ทิพยเทพาวตารไพศาลเกียรติคุณอดุลยวิเศษ สรพรรพเทเวศรานุรักษ์ วิสิษฐศักดิ์สมญาพินิตประชานาถ เปรมกระมลขัติยราชประยูร มูลมุขราชดิลก มหาปริวารนายกอนันต์มหันตวรฤทธิเดช สรรวิเศษสิรินทร อเนกชนนิกรสโมสรสมมติ ประสิทธิ์วรยศ มโหดมบรมราชสมบัติ นพปดลเศวตฉัตราดิฉัตร สิริ รัตโนปลักษณมหาบรมราชาภิเษกกาภิสิต สรรพทศทิศวิชิตไชย สกลมไหสวริยมหาสวามินทร์ มเหศวรมหินทรามหารามาธิราชวโรดม บรมนาถชาติ อาชาวศรัย พุทธาธิไตยรัตนสรณารักษ์ อดุลยศักดิ์อรรคนเรศราธิบดี เมตตากรุณาสีตลหฤทัย อโนปมัยบุญการสกลไพศาล มหารัษฎาธิบดินทร์ ปรมินทรธรรมิกหาราชาธิราช บรมนาถบพิตร พระจุลจอม- เกล้าเจ้าอยู่หัว’

          พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับการศึกษาชั้นต้นด้านอักษรศาสตร์ และโบราณราชประเพณี จากสำนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวรเสรฐสุดา (พระองค์เจ้าบุตรี) พระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลที่ ๓, ทรงศึกษาภาษามคธกับพระปริยัติธรรมธาดา(เนียม), ศึกษาวิชาการยิงปืนไฟ จากสำนัก พระยาอภัยศรเพลิง(ศรี), ศึกษาวิชาคชกรรมกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ และนอกจากนั้นพระองค์ท่านยังทรงได้ศึกษาภาษาอังกฤษจากชาวต่างประเทศโดยตรงจนทรงรอบรู้ในศาสตร์แขนงนี้ได้เป็นอย่างดี ส่วนทางด้านวิชารัฐศาสตร์ ราชประเพณีและโบราณคดีนั้น สมเด็จพระบรมชนกนาถเป็นผู้พระราชทานการฝึกสอนด้วยพระองค์ จวบจนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๑๑ เหล่าเสนาบดีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ จึงพร้อมใจกันอัญเชิญพระองค์ท่านขึ้นเถลิงราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๕ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์

          ทั้งนี้การขึ้นเถลิงราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสองครั้งด้วยกัน โดยในครั้งแรกเมื่อ วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๑๑ ซึ่งในขณะนั้นพระองค์ท่านทรงมีพระชนมายุได้ ๑๔ พรรษา สมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ซึ่งขณะนั้นมีบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ รับหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และในช่วงเวลาดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงเริ่มเสด็จประพาสต่างประเทศเพื่อศึกษาและนำวิทยาการสมัยใหม่มาเป็นแนวทางเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เนื่องจากในยุคนั้น อารยธรรมจากประเทศแถบตะวันตกได้เริ่มเข้ามาแพร่หลายในประเทศอินเดีย และชวา ส่วนพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ครั้งที่ ๒ นั้นเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๑๖ ภายหลังจากที่พระองค์ทรงมีพระชนมายุบรรลุพระราชนิติภาวะ และได้ทรงผนวชเป็นพระภิกษุเป็นเวลา ๒ สัปดาห์ ซึ่งนับจากนั้นเป็นต้นมา พระองค์ท่านก็ทรงพระราชอำนาจเด็ดขาดในการบริหารราชการแผ่นดิน

ตลอดระยะเวลา ๔๒ ปี ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศไทยอย่างมากมาย โดยเฉพาะในช่วงรัชสมัยของพระองค์ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าคือ ยุคที่อารยธรรมสมัยใหม่และการล่าอาณานิคมเมืองขึ้นได้เริ่มมีเข้ามาถึงแถบเอเชีย พระองค์ท่านจึงได้ทรงจัดส่งพระราชโอรสและนักเรียนไทยไปศึกษาในต่างประเทศ เพื่อนำมวลความรู้กลับมาพัฒนาประเทศ อันแสดงถึงความมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของพระองค์ที่นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง และคุณประโยชน์แก่ประเทศไทยให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์และสามารถธำรง “เอกราช” ไว้ได้ตราบจนทุกวันนี้ 

ทั้งนี้ ปัจจัยแห่งอารยธรรมสมัยใหม่ และพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศไทยที่พระองค์ท่านได้ทรงริเริ่มในรัชสมัยของพระองค์ สามารถจำแนกได้พอสังเขปดังต่อไปนี้

การเลิกทาส เป็นพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ซึ่งช่วยปลดเปลื้องทุกข์ยากของปวงชนชาวไทยในยุคนั้น และทำให้พระองค์ทรงได้รับพระสมัญญาว่า “สมเด็จพระปิยมหาราช” ซึ่งด้วยพระปรีชาสามารถ พระองค์ท่านได้ทรงค่อยๆ ปรับเงื่อนไขว่าด้วยการเลิกทาสอย่างเป็นระบบโดยมิยอมให้เกิดกรณีขัดแย้ง หรือเหตุวุ่นวายจากบรรดาเจ้านายเก่าซึ่งเคยมี และต้องมีข้าทาสไว้รับใช้มาตั้งแต่ครั้งโบราณ

โดยในการณ์นี้พระองค์ได้ทรงเริ่มจาก การตราพระราชบัญญัติขึ้น เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๑๗ ให้มีผลย้อนหลังไปถึงปีที่พระองค์ท่านได้เสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติ ซึ่งระบุว่า “ลูกทาส” ซึ่งเกิดเมื่อปีมะโรง พุทธศักราช ๒๔๑๑ ให้มีสิทธิได้ลดค่าตัวทุกปี จนเมื่ออายุครบ ๒๑ ปี ก็ให้ขาดจากความเป็นทาสทั้งชายและหญิง จากนั้นใน พุทธศักราช ๒๔๔๘ พระองค์จึงได้ทรงออกพระราชบัญญัติเลิกทาสที่แท้จริงขึ้น เรียกว่า “พระราชบัญญัติทาส ร.ศ.๑๒๔” (หรือ พุทธศักราช ๒๔๔๘) โดยให้ยกเลิกลูกทาสในเรือนเบี้ยอย่างเด็ดขาด และเด็กที่เกิดจากทาส ไม่ต้องเป็นทาสอีกต่อไป นอกจากนี้การซื้อขายทาสยังระบุให้เป็นโทษทางอาญา ส่วนผู้ใดที่ยังเป็นทาสอยู่แล้ว ก็ให้นายเงินลดค่าตัวให้เดือนละ ๔ บาท จนกว่าจะครบตามจำนวนค่าตัว ซึ่งในการเลิกทาสนี้ พระองค์ท่านใช้เวลาเพียง ๓๐ ปีเศษ ทาสในเมืองไทยก็หมดไปโดยไม่เกิดการนองเลือดเฉกเช่นประเทศอื่นๆ

การปฏิรูประบบราชการ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณา

โปรดเกล้าฯ ให้ตราระเบียบการปกครองขึ้นใหม่ โดยให้แยกหน่วยราชการต่างๆ ออกเป็นกรมกอง โดยให้มีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะด้าน ซึ่งจากเดิมประเทศไทยในยุคนั้นมีเพียง ๖ กระทรวง คือ กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงลาโหม, กระทรวงนครบาล, กระทรวงวัง, กระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตราธิการ พระองค์ท่านทรงให้เพิ่มขึ้นอีก ๔ กระทรวง รวมเป็น ๑๐ กระทรวง อันได้แก่ กระทรวงธรรมการ มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับกิจการของพระสงฆ์ และการศึกษา, กระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับคดีความ, กระทรวงโยธาธิการ มีหน้าที่ดูแลตรวจตราการก่อสร้างต่างๆ และ กระทรวงการต่างประเทศ มีหน้าที่ดูแลงานที่เกี่ยวข้องกับการต่างประเทศ

การสาธารณูปโภค พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงริเริ่มให้มีนโยบายเก็บกักน้ำ โดยเริ่มจากแม่น้ำเชียงรากน้อย จังหวัดปทุมธานี และขุดคลองเพื่อส่งน้ำเข้ามายังสามเสน พร้อมทั้งฝังท่อเอกติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการทำน้ำประปาขึ้นเมื่อเดือน กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๕๒, ด้านการคมนาคม พระองค์ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปขุดดินก่อพระฤกษ์เมื่อ เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม เพื่อประเดิมการสร้างทางรถไฟไปนครราชสีมา แต่อย่างไรก็ดีพระองค์ก็ได้ทรงเปิดทางรถไฟกรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยาก่อน ด้วยเหตุนี้จึงนับได้ว่าเส้นทางรถไฟสายนี้เป็นทางรถไฟแห่งแรกของไทย, ด้านการสาธารณสุข ได้ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน ๒๐๐ ชั่ง โปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงพยาบาลวังหลัง ซึ่งต่อมาก็คือ “โรงพยาบาลศิริราช” และเปิดทำการรักษาประชาชนเป็นครั้งแรกเมื่อ ๒๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๓๑, ด้านการไฟฟ้า ทรงเป็นผู้ริเริ่มให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชนได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี พุทธศักราช ๒๔๓๓ และงาน ด้านการไปรษณีย์ ทรงเป็นผู้ให้เริ่มจัดขึ้นในปี พุทธศักราช ๒๔๑๔ รวมอยู่ในกรมโทรเลข ซึ่งได้จัดขึ้นตั้งแต่ พุทธศักราช ๒๔๑๒ โดยโทรเลขสายแรกคือ ระหว่างจังหวัดพระนคร (กรุงเทพมหานคร) กับจังหวัดสมุทรปราการ

การเสด็จประพาส พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดการเสด็จประพาสเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพื่อพระองค์จะได้ทรงทราบถึงความเป็นอยู่ที่แท้จริงของราษฎร การเสด็จประพาสในที่ต่างๆ เป็นการตรวจตราสารทุกข์สุขดิบของราษฎรได้เป็นอย่างดี พระองค์จึงได้ทรงปลอมแปลงพระองค์ไปกับเจ้านายและข้าราชการ โดยเสด็จฯ ทางเรือมาดแจวไปตามแม่น้ำลำคลองต่างๆ เพื่อแวะเยี่ยมเยียนตามบ้านราษฎร ซึ่งเรียกกันว่า “ประพาสต้น” และนอกจากนั้น พระองค์ท่านยังทรงเสด็จประพาสหัวเมืองใหญ่น้อยในพระราชอาณาเขต  บางคราวก็เสด็จไปเพื่อทรงตรวจจัดการปกครอง  จัดการรับเสด็จเป็นทางราชการ  บางคราวไปเพื่อสำราญพระราชอิริยบถ  และไม่ทรงโปรดให้จัดการรับเสด็จเป็นทางราชการ  แต่ทรงโปรดให้จัดการที่เสด็จไปให้ง่ายยิ่งกว่าเสด็จไปประพาสเพื่อสำราญพระราชอิริยบถอย่างสามัญ  คือไม่ให้มีท้องตรา  สั่งหัวเมืองให้จัดทำที่ประทับแรม ณ ที่ใดๆ  สุดแต่พอพระราชหฤทัยที่จะประทับที่ไหนก็ประทับที่นั้น  บางทีก็ทรงเลือก หรือเสด็จโดยสารรถไฟไปมิให้ใครรู้จักพระองค์

นอกจากการแสดงประพาสภายในประเทศแล้ว การเสด็จประพาสยังต่างประเทศยังเป็นพระราชกรณียกิจที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยภายหลังจากเกิดกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสแล้ว ก็ได้เสด็จประพาสยุโรป ๒ ครั้ง ในปี พุทธศักราช ๒๔๔๐ ครั้งหนึ่ง และในปี พุทธศักราช ๒๔๕๐ อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ ในยุโรป ตลอดจนประเทศฝรั่งเศสด้วย อีกทั้งยังได้ทรงเลือกสรรเอาแบบแผนขนบธรรมเนียมอันดีในดินแดนเหล่านั้นมาปรับปรุงในประเทศให้เจริญขึ้น

การศึกษา  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความความสำคัญของการศึกษาอย่างยิ่ง จึงทรงโปรดให้สร้างโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวัง คือ “โรงเรียนนายทหารมหาดเล็ก” ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ” ต่อมาได้ทรงโปรดให้ตั้งโรงเรียนหลวงสำหรับราษฎรขึ้นเป็นแห่งแรก คือ “โรงเรียนวัดมหรรณพาราม” และในที่สุดได้ทรงโปรดให้จัดตั้งกระทรวงธรรมการขึ้น เมื่อปี พุทธศักราช ๒๔๓๕ (ปัจจุบันคือกระทรวงศึกษาธิการ) เพื่อดูแลเรื่องการศึกษาและการศาสนา

          การปกป้องประเทศจากการสงครามและการจำยอมสละดินแดน สืบเนืองมาจากลัทธิจักรวรรดินิยมได้แผ่อิทธิพลเข้ามาตั้งแต่เมื่อครั้งปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้ความพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อรักษาประเทศชาติให้รอดพ้นจากวิกฤติการณ์ล่าอาณานิคม ถึงแม้ว่าในบางกรณีจำจะต้องสูญเสียดินแดนบางส่วนไป แต่เพื่อดำรงไว้ซึ่งเอกราช พระองค์จึงจำเป็นต้องยอมสละเพื่อคงไว้ในดินแดนที่เหลืออยู่ โดยสามารถสรุปพอสังเขป ดังต่อไปนี้

  • พุทธศักราช ๒๔๓๑ เสียดินแดนในแคว้นสิบสองจุไทย 
  • พุทธศักราช ๒๔๓๖ เสียดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ให้ฝรั่งเศส และฝรั่งเศสยึดเมืองจันทบุรีไว้ 
  • พุทธศักราช ๒๔๔๗ เสียดินแดนฝั่งขวาของแม่น้ำโขงให้ฝรั่งเศส เพื่อแลกกับเมืองจันทบุรี แต่ฝรั่งเศสได้ยึดตราดไว้แทน 
  • พุทธศักราช ๒๔๔๙ เสียดินแดนที่เมืองพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ให้ฝรั่งเศส เพื่อแลกกับตราด และเกาะทั้งหลาย แต่การเสียดินแดนครั้งสุดท้ายนี้ไทยก็ได้ประโยชน์อยู่บ้าง คือฝรั่งเศสยอมยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ยอมให้ศาลไทยมีสิทธิที่จะชำระคดีใดๆ ที่เกิดขึ้นแก่ชาวฝรั่งเศส ไม่ต้องไปขึ้นศาลกงสุลเหมือนแต่ก่อน

นอกจากจะทรงพระปรีชาสามารถในด้านการเมืองการปกครองแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงมีพระอัจฉริยภาพในงานด้านพระราชนิพนธ์อีกด้วย โดยสามารถประมวลได้ทั้งหมด ๑๐ เรื่องด้วยกัน อันได้แก่ ไกลบ้าน, เงาะป่า, นิทราชาคริต, อาบูหะซัน, พระราชพิธีสิบสองเดือน, กาพย์เห่เรือ, คำเจรจาละครเรื่องอิเหนา, ตำรากับข้าวฝรั่ง, พระราชวิจารณ์จดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี และโคลงบรรยายภาพรามเกียรติ์

๒๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๕๓

          พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทยได้ทรงเสด็จสวรรคตด้วยโรคพระวักกะ ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต (เมื่อวันอาทิตย์ เดือน ๑๑ แรม ๕ ค่ำ ปีจอ) รวมพระชนมายุได้ ๕๘ พรรษา

ในกาลต่อมา ทางราชการจึงได้ประกาศให้วันที่ ๒๓ ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันที่ระลึกถึงความสำคัญของชาติวันหนึ่งซึ่งเรียกว่า วันปิยมหาราช และกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์มาจนตราบเท่าทุกวันนี้.

หมายเหตุ : รัชกาลที่ ๕ใช้อักษรย่อว่า “จปร” ย่อมาจาก “มหาจุฬาลงกรณ ปรมราชาธิราช”

  • โดย ธนกฤต วงษ์พรต
2019-10-22
Admin
Twitter Facebook Google + Stumble linkedin Pinterest More
Previous Article :

โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ผศ.ดร.ชุตินันท์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดี ม.อุบลราชธานี

Next Article :

“วีระศักดิ์” สมาชิกวุฒิสภา ร่วมต้อนรับองคมนตรี งานเทิดพระเกียรติ ร.๕ พร้อมมอบทุนเด็กเรียนดี

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

ข่าวยอดนิยม

เปิดศูนย์แห่งความเป็นเลิศ (Excellence Center) ใน 4 ภูมิภาค 8 แห่งทั่วประเทศ
การศึกษา

เปิดศูนย์แห่งความเป็นเลิศ (Excellence Center) ใน 4 ภูมิภาค 8 แห่งทั่วประเทศ

02 ต.ค. 2019
ม.อุบลฯ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมใจเทิดพระเกียรติ ร.9
การศึกษา

ม.อุบลฯ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมใจเทิดพระเกียรติ ร.9

04 ธ.ค. 2018
โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ผศ.ดร.ชุตินันท์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดี ม.อุบลราชธานี
การศึกษา

โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ผศ.ดร.ชุตินันท์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดี ม.อุบลราชธานี

18 ต.ค. 2019
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปีการศึกษา 2560
การศึกษา

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปีการศึกษา 2560

20 ธ.ค. 2018

Banner


htmagazine

สำนักข่าว "ลาวกาว" มีวัตถุประสงค์ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารต่างๆ ภายในจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียงในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ติดตามเรา

ข่าวเด่น

  • สวย

    สวย

    Admin 06 มิ.ย. 2020
  • ร่วมเป็นสักขีพยาน MOU โครงการก่อสร้างเคเบิลใต้ดิน พื้นที่ ทน.อุบลราชธานี

    ร่วมเป็นสักขีพยาน MOU โครงการก่อสร้างเคเบิลใต้ดิน พื้นที่ ทน.อุบลราชธานี

    Admin 27 พ.ย. 2019
  • เชิญบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศล 11 ธ.ค. นี้ที่ ทน.อุบลฯ

    เชิญบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศล 11 ธ.ค. นี้ที่ ทน.อุบลฯ

    Admin 27 พ.ย. 2019
  • ว.แพทยศาสตร์ฯ จัดคอนเสิร์ตการกุศลสมทบทุนพัฒนา โรงพยาบาล ม.อุบลฯ

    ว.แพทยศาสตร์ฯ จัดคอนเสิร์ตการกุศลสมทบทุนพัฒนา โรงพยาบาล ม.อุบลฯ

    Admin 26 พ.ย. 2019
  • สคร.10 อุบลฯ เตือนระวัง โรคมือ เท้า ปาก ระบาดช่วงหน้าหนาว เน้นป้องกันดีกว่ารักษา

    สคร.10 อุบลฯ เตือนระวัง โรคมือ เท้า ปาก ระบาดช่วงหน้าหนาว เน้นป้องกันดีกว่ารักษา

    Admin 26 พ.ย. 2019
© Copyright 2014, All Rights Reserved
Ti3rn